กินกบตัวนั้นซะ! = Eat That Frog! = #52
ผู้เขียน : Brian Tracy
ผู้แปล : พรเลิศ อิฐฐ์
ISBN : 978-616-287-010-1
ปีที่พิมพ์ : 2007
สำนักพิมพ์ : We Learn.
จำนวนหน้า : 157 หน้า
ราคา : 150 บาท
สรุปเนื้อหาสำคัญ
หนังสือเล่มนี้ ถือว่าเป็นสุดยอดของหนังสือที่เกี่ยวกับการพัฒนาตัวเอง และการจัดการงาน (get thing done) เล่มหนึ่งเลยที่เดียว โดยการนำเสนอก็ทำออกมาได้น่าอ่าน ไม่หนักและไม่เบาจนเกินไป
ในหนังสือจะนำเสนอวีธีการจัดการงานต่างๆให้อยู่หมัดผ่านวิธีการต่างๆ 21 อย่าง โดยเริ่มตั้งแต่การจัดโต๊ะ การให้ความสำคัญกับงานที่สำคัญ ไปจนถึงการสร้างสำนึกแห่งความเร่งรีบ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน
จงกินกบตัวนั้นซะ ฟังดูแล้วคงรู้สึกแปลกๆ ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่าไอ้เจ้ากบที่พูดถึงในหนังสือเล่มนี้หมายถึงอะไร อย่างไร
เจ้ากบที่ว่านี้คือ งานที่จำเป็นจะต้องทำให้แล้วเสร็จ โดยนัยแล้วงานที่ไม่อยากทำ ก็คือเจ้ากบตัวใหญ่ที่น่าเกลียดนั้นเอง โดยกฏในการกินกบนั้นมีอยู่เพียง 2 ข้อง่ายๆเท่านั้น คือ
1.ถ้ามีกบให้เลือกกินมากกว่า 1 ตัว จงเลือกกินกบตัวที่น่าเกลียดที่สุดก่อนเสมอ (งานที่ไม่อยากทำที่สุด หรืองานที่ยากที่สุดนั้นเอง)
2. เมือถึงเวลาที่จะกินกบ ให้รีบลงมือกินทันที่เลย อย่ามั่วแต่เสียเวลาที่จะมานั้งทำใจมองเจ้ากบอ้วนๆนั้นอยู่เลย
ในหนังสือมีวิธีการต่างๆมากมาย แต่จะขอยกมาให้อ่านเป็นตัวอย่างเพื่อเป็นไอเดียนะครับ
การจัดโต๊ะ หรือขั้นตอนการเตรียมตัว (1)
สิ่งสำคัญที่สุดของขั้นตอนนี้ก็คือ การกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน โดยถ้าจะให้ดีจงเขียนลงกระดาษให้ชัดเจนซะ
หลักสำคัญในการตั้งเป้าหมาย
1. เป้าหมายจะต้องตั้งให้ชัดเจนที่สุด
2. หลังจากกำหนดเป้าหมายได้อย่างชัดเจนแล้ว จงจดมันลงกระดาษโดยให้ลงรายละเอียดให้ได้มากที่สุด
3. ต้องกำหนดเส้นตายให้กับเป้าหมายอยู่เสมอ โดยอาจจะมีหลายขั้นตอนได้
4. จะต้องระบุสิ่งที่จะต้องทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมายให้ชัดเจน
5. ต้องแยกงานที่จะต้องทำก่อน และหลังตามลำดับความสำคัญ (priority)
6. สำคัญที่สุดคือ "จงลงมือทำ ทันที"
7. จงยึดกับแผนที่วางไว้อย่างไม่ลดละ จงอย่าหยุดทำตามแผนแม้แต่วันเดียว
ผู้แปล : พรเลิศ อิฐฐ์
ISBN : 978-616-287-010-1
ปีที่พิมพ์ : 2007
สำนักพิมพ์ : We Learn.
จำนวนหน้า : 157 หน้า
ราคา : 150 บาท
สรุปเนื้อหาสำคัญ
หนังสือเล่มนี้ ถือว่าเป็นสุดยอดของหนังสือที่เกี่ยวกับการพัฒนาตัวเอง และการจัดการงาน (get thing done) เล่มหนึ่งเลยที่เดียว โดยการนำเสนอก็ทำออกมาได้น่าอ่าน ไม่หนักและไม่เบาจนเกินไป
ในหนังสือจะนำเสนอวีธีการจัดการงานต่างๆให้อยู่หมัดผ่านวิธีการต่างๆ 21 อย่าง โดยเริ่มตั้งแต่การจัดโต๊ะ การให้ความสำคัญกับงานที่สำคัญ ไปจนถึงการสร้างสำนึกแห่งความเร่งรีบ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน
จงกินกบตัวนั้นซะ ฟังดูแล้วคงรู้สึกแปลกๆ ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่าไอ้เจ้ากบที่พูดถึงในหนังสือเล่มนี้หมายถึงอะไร อย่างไร
เจ้ากบที่ว่านี้คือ งานที่จำเป็นจะต้องทำให้แล้วเสร็จ โดยนัยแล้วงานที่ไม่อยากทำ ก็คือเจ้ากบตัวใหญ่ที่น่าเกลียดนั้นเอง โดยกฏในการกินกบนั้นมีอยู่เพียง 2 ข้อง่ายๆเท่านั้น คือ
1.ถ้ามีกบให้เลือกกินมากกว่า 1 ตัว จงเลือกกินกบตัวที่น่าเกลียดที่สุดก่อนเสมอ (งานที่ไม่อยากทำที่สุด หรืองานที่ยากที่สุดนั้นเอง)
2. เมือถึงเวลาที่จะกินกบ ให้รีบลงมือกินทันที่เลย อย่ามั่วแต่เสียเวลาที่จะมานั้งทำใจมองเจ้ากบอ้วนๆนั้นอยู่เลย
ในหนังสือมีวิธีการต่างๆมากมาย แต่จะขอยกมาให้อ่านเป็นตัวอย่างเพื่อเป็นไอเดียนะครับ
การจัดโต๊ะ หรือขั้นตอนการเตรียมตัว (1)
สิ่งสำคัญที่สุดของขั้นตอนนี้ก็คือ การกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน โดยถ้าจะให้ดีจงเขียนลงกระดาษให้ชัดเจนซะ
หลักสำคัญในการตั้งเป้าหมาย
1. เป้าหมายจะต้องตั้งให้ชัดเจนที่สุด
2. หลังจากกำหนดเป้าหมายได้อย่างชัดเจนแล้ว จงจดมันลงกระดาษโดยให้ลงรายละเอียดให้ได้มากที่สุด
3. ต้องกำหนดเส้นตายให้กับเป้าหมายอยู่เสมอ โดยอาจจะมีหลายขั้นตอนได้
4. จะต้องระบุสิ่งที่จะต้องทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมายให้ชัดเจน
5. ต้องแยกงานที่จะต้องทำก่อน และหลังตามลำดับความสำคัญ (priority)
6. สำคัญที่สุดคือ "จงลงมือทำ ทันที"
7. จงยึดกับแผนที่วางไว้อย่างไม่ลดละ จงอย่าหยุดทำตามแผนแม้แต่วันเดียว
ใช้กฏ 80 / 20 เสมอ (3)
จงเลือกทำแต่งานที่มีความสำคัญ เพราะเวลาเป็นสิ่งที่มีจำกัด ดังนั้นมันจึงสำคัญมากที่เราจะต้องจดจ่อกับงานที่มีความสำคัญเป็น 20% ของยอดพีระมิดเท่านั้น
เทคนิค ABCDE (6)
เทคนิค ABCDE ก็คือเทคนิคในการจัดลำดับความสำคัญของงานที่จะต้องทำ โดย A คืองานที่มีความสำคัญเป็นที่สุด และงาน E คืองานที่ห้ามทำเลย หรือคืองานที่จะต้องโดนทิ้งไปนั้นเอง
สร้างสำนึกแห่งความเร่งด่วน (20)
เป็นการสร้างความกดดันให้กับตัวเอง โดยเราจะต้องกระตุ้นตัวเองอยู่เสมอๆ ให้รู้สีกว่าจะต้องรีบทำสิ่งต่างๆให้สำเร็จลุล่วงไปให้ได้โดยเร็ว อย่างที่ได้บอกไปแล้วในกฎการกินกบว่า "อย่ามั่วเสียเวลานั้งมองกบ จงลงมือกินกบตัวนั้นให้เร็วที่สุด"
สรุปว่าเป็นหนังสือที่ "ต้องอ่าน" เลยครับ หนังสือทำออกมาให้อ่านได้ง่ายๆ แต่มีมุมให้ไปคิด ให้ไปปรับใช้อยู่เยอะมากครับ รับรองว่าไม่ผิดหวังเลยครับกับหนังสือเล่มนี้
Comments
Post a Comment