เถ้าแก่(ข้างถนน) สอนลูกรวย #36


ผู้เขียน  :  ศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ
ISBN  :  978-616-376-002-9
ปีที่พิมพ์ครั้งแรก  :  2014
จัดพิมพ์โดย  :  สำนักพิมพ์ DMG BOOKS
จำนวนหน้า  :  144 หน้า

ราคา  :  145 บาท

สรุปเนื้อหาสำคัญ

   สำหรับคนที่เคยผ่านประสบการ์ณ วิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก เซี้ยนหุ้นที่แทบจะล้มละลายเพราะวิกฤตครั้งนั้น แต่ยังคงต่อสู้ดิ้นร้นอย่างไม่ยอมแพ้ อย่่างคุณศิริวัฒน์ ที่ถึงแม้จะมีหนีส้ินมากมายหลักพันล้าน

   บทเรียนหนึ่งที่คุณศิริวัฒน์พยามยามที่จะบอกอยู่บ่อยๆในหนังสือก็คือ จงอย่าให้ความโลภเข้าครอบงำ เพราะปัญหาคือเมือความโลภเข้าครอบงำแล้ว คนเราก็จะขาดสติ เมื่อไร้สติก็จะทำให้เกิดปัญหาตามมา

   อีกประการหนึ่งคือ กำลังใจและความเข้าใจของคนที่บ้าน นั้นมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีวิกฤต ในเวลาที่มีปัญหานั้นอย่าตีโพยตีพายว่าชีวิตเรามันทำไมมันช่างเลวร้ายนัก ให้เอาเวลาเหล่านัั้นมาคิดหาวิธีการแก้ปัญหา อาศัยปัญญาในการแก้ไขปัญหา ดีกว่าเอาเวลาไปโทษสิ่งต่างๆ

   การทำธุรกิจควรเริ่มจากสิ่งเล็กๆ ไม่ควรที่จะให้ความโลภมากครอบงำ โดยผู้เขียนมองว่าการทำธุรกิจมีเพียงแค่  2 อย่างเท่านั้นคือ ถ้าเราไม่เป็นผู้ผลิต ผลิตสินค้า หรือบริการต่างๆออกมา เราก็จะต้องเป็นผู้จัดจำหน่าย ผู้กระจายสินค้า โดยทั้งสองส่วนนั้นต่างอาศัยความสามารถที่ต่างกันไป

   สิ่งสำคัญในการทำธุรกิจคือ ความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า การทำสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ

   กลเม็ดการขาย

๑. เถ้าแก่ต้องลงมือเอง จะได้สามารถมองเห็นทั้งปัญหา และสภาพจริงๆได้

๒. อย่าตื้อ อย่ายัดเยียด ถ้าสินค้า หรือบริการของเราดีจริง และเป็นที่ต้องการของลูกค้าแล้ว ลูกค้าก็จะซื้อด้วยความเต็มใจ

๓. ต้องมีขนาดตามความต้องการ ของลูกค้า เพื่อตอบสนองความต้องการที่่แตกต่างกัน

๔. ต้องมีการสร้างการเปรียบเทียบอย่างสร้างสรรค์ ต้องบอกความแตกต่างของสินค้าและบริการของเราได้

๕. ถ้าดันไม่ขึ้นต้องรู้จักปล่อยวาง ต้องรู้จักทำการทดสอบตลาดก่อน

๖. ใช้คำแนะนำจากลูกค้ามาปรับปรุงสินค้า และบริการให้ตรงกับความต้องการมากขึ้น

๗. เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย หาตัวแทนที่จะช่วยเราขาย ช่วยเราขยายตลาด

สรุป เป็นหนังสือที่ให้กำลังใจที่ดีเล่มหนึ่งครับ จากคนที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย มาเป็นคนที่เป็นหนีล้นพ้นตัว และกลับเข้ามาสร้างความสำเร็จอีกครั้งหนึ่ง คนคนนี้ คุณ ศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ

Credit รูปภาพ : Bangkokbiz, 

Comments